ตั้งกระทู้ ตอบ
กลับไปยังรายการ
  • 4760เข้าชม
  • 0ตอบกลับ

เปลี่ยนปัญหาให้เป็นปัญญา [คัดลอกลิงค์]

ถอยกลับ ถัดไป
ออฟไลน์ watkaeng

UIDผู้ใช้ลำดับที่ 6

เพศ : ชาย

 โพสต์ : 2068

 สำคัญ : 0

 เงิน : 2020 (บาท)
 ความดี : 1047 (แต้ม)
 เครดิต : 2061 (แต้ม) [เติม]
 จิตพิสัย: 997 (แต้ม)
เหรียญ

ดูเหรียญทั้งหมด

เฉพาะโพสต์แรก ลำดับปกติ เครื่องมือ ลิงก์โพสนี้   โพสต์เมื่อ: 2010-06-24 08:21:02: 2010-06-24 จำนวนผู้เข้าชม: 4760 ท่าน
"ปัญหา" เป็นสิ่งที่ใคร ๆ ก็อยากเลี่ยงหลีก แต่ไม่มีใครที่หนีมันพ้นได้เพราะปัญหาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ในเมื่อเราไม่มีวันหนีปัญหาพ้นจะไม่ดีกว่าหรือหากเราเตรียมใจให้พร้อมเพื่อต้อนรับมันอยู่เสมอ  การมองว่า"ปัญหา"เป็นเรื่องธรรมดาของชีวิตที่ไม่มีใครหนีพ้น เช่นเดียวกับ เกิด แก่เจ็บ ตาย เป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยให้เราเผชิญกับปัญหาได้โดยไม่ทุกข์มากนักแต่วิธีที่ดีกว่านั้นก็คือการเปลี่ยน "ปัญหา" ให้กลายเป็น "ปัญญา" เพราะนอกจากจะไม่ทุกข์หรือ "ขาดทุน"แล้ว ยังได้ประโยชน์เป็น "กำไร"กลับมาด้วยขอให้สังเกตคำว่า "ปัญหา" กับ "ปัญญา" นั้นมีความใกล้เคียงกันมากต่างกันแค่ตัวเดียวคือ "ห" กับ "ญ" ในชีวิตจริง สิ่งที่เรียกว่า "ปัญหา"นั้นก็อยู่ใกล้กับ "ปัญญา" มากเช่นเดียวกันปัญหาสามารถก่อให้เกิดปัญญาได้หากรู้จักมองหรือใคร่ครวญกับมันนักเรียนจะเฉลียวฉลาดได้ก็เพราะหมั่นทำการบ้านการบ้านนั้นคืออะไรหากไม่ใช่ปัญหาหรือโจทย์ที่ต้องขบคิดถ้าครูไม่ขยันให้โจทย์หรือตั้งคำถามให้นักเรียนขบคิดนักเรียนก็ยากที่จะเกิดปัญญาได้คนทั่วไปนั้นเมื่อเจอปัญหาก็จะเป็นทุกข์หรือกลัดกลุ้มไปกับมันแต่ถ้าลองตั้งสติและพิจารณาให้ดี ปัญหาก็จะกลายเป็นปัญญาได้ไม่ยาก เมื่อ๘๐ ปีก่อนนักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษคนหนึ่งได้เพาะเลี้ยงแบคทีเรียไว้ในจานเพื่อใช้ในการศึกษาวิจัยเรื่องไข้หวัดวันหนึ่งเขาพบว่ามีเชื้อราเข้าไปปนเปื้อนและทำลายแบคทีเรียที่เพาะเอาไว้นั่นหมายความว่าเขาต้องเพาะแบคทีเรียขึ้นใหม่เจ้าเชื้อราตัวนี้สร้างปัญหาให้นักวิทยาศาสตร์ผู้นี้ แต่แทนที่จะโมโหเขากลับฉุกคิดขึ้นมาว่าถ้ามันฆ่าแบคทีเรียที่เพาะในจานได้มันก็ต้องกำจัดแบคทีเรียที่ในร่างกายคนได้เช่นกันปัญญาเกิดขึ้นแก่นักวิทยาศาสตร์ผู้นี้ทันทีนำไปสู่การค้นพบเพนนิซิลินหรือยาปฏิชีวนะซึ่งในเวลาไม่นานสามารถช่วยชีวิตผู้คนนับร้อยล้านคนทั่วโลกนักวิทยาศาสตร์ผู้นี้คืออเล็กซานเดอร์ เฟลมมิ่งนั่นเองโลกก้าวหน้าได้เพราะเรารู้จักเปลี่ยนปัญหาให้เป็นปัญญา มองให้แคบลงมาชีวิตของคนเราก็เช่นกันมีคนจำนวนไม่น้อยที่ชีวิตเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นหลังจากประสบวิกฤตบางคนเป็นโรคหัวใจเจียนตายภัยร้ายได้บังคับให้เขาต้องหันมาทบทวนชีวิตของตนและพบว่าการหมกมุ่นอยู่กับตนเอง ตัดขาดจากผู้อื่นและจมอยู่กับความหดหู่เศร้าหมองเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เขามีอาการดังกล่าว เขาจึงปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตเข้าหาผู้คน ช่วยเหลือเอื้อเฟื้อผู้อื่น และปล่อยวางความกังวลหม่นหมองไม่นานสุขภาพของเขาก็ดีขึ้น มีความสุขมากขึ้น เขายอมรับว่าการเป็นโรคหัวใจเป็นสิ่งดีที่สุดอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นกับเขา เมื่อเกิดปัญหาขึ้นมา แทนที่จะคร่ำครวญหรือตีอกชกหัว  ลองใคร่ครวญดูให้ดีจะพบว่า ปัญหาเหล่านี้เป็นสัญญาณเตือนให้เราเปลี่ยนแปลงตัวเองถ้าเรามองสัญญาณนี้ออก นั่นแสดงว่าปัญญาได้เกิดแก่เราแล้ว    ขั้นต่อไปก็คือเปลี่ยนทัศนคติ พฤติกรรม หรือการใช้ชีวิตให้ถูกต้อง เหมาะสมและชาญฉลาด ไม่ควรมองว่าปัญหาคือ "ทางตัน" ถ้ามองให้ดี ในตัวปัญหานั้นก็มี"ทางออก"  ด้วยเหมือนกัน อย่าลืมว่าสลักที่ล็อคประตูนั้นก็เป็นสลักอันเดียวกับที่ใช้เปิดประตูสวิตช์ที่ปิดไฟก็เป็นอันเดียวกับที่ใช้เปิดไฟให้สว่างฉันใดก็ฉันนั้นในคำถามก็มีคำตอบเฉลยอยู่จะว่าไปแล้วปัญหาหรือความทุกข์ทั้งหลายไม่ได้มีไว้ให้เราคร่ำครวญ  แต่มีไว้ให้ใคร่ครวญนั่นเอง ในความทุกข์นั้นก็มีทางออกจากความไม่ทุกข์แฝงอยู่เสมอ ในภาพยนตร์เรื่องBatman Begins เด็กชายบรู๊ซ(ซึ่งต่อมาจะกลายเป็นมนุษย์ค้างคาว)ได้พลัดตกลงไปในหลุมเมื่อพ่อช่วยขึ้นมาแล้ว ได้ถามลูกว่า "รู้ไหมทำไมคนเราถึงหกล้ม?"ลูกนึกไม่ออก พ่อจึงเฉลยว่า"ก็เพื่อเราจะได้รู้วิธีลุกขึ้นมาไงล่ะ"ความทุกข์มีขึ้นก็เพื่อสอนเราให้รู้จักหลุดพ้นจากความทุกข์ ปัญหาเกิดขึ้นก็เพื่อสอนเราให้เกิดปัญญาด้วยเหตุนี้ปัญหาจึงไม่ใช่เรื่องน่ากลัวหากคือครูที่มาสอนให้เราฉลาดขึ้นนั่นเอง

ให้คะแนนโพสต์ตามความรู้สึกคุณ

สุดยอด

เศร้า

น่าตลก

แฮปปี้

โกรธ

เบื่อ

ผวา
ผู้ให้ย่อมเป็นที่รักของผู้ถูกให้:
ตั้งกระทู้ ตอบ
กลับไปยังรายการ
กล่องตอบกลับด่วน
จำกัด255 ตัวอักษร
ขี้เกียจตอบหรือเปล่า ใช้ตรงนี้สิ!!
กรุณาใช้ข้อความที่สุภาพ คุณสามารถบันทึกฉบับร่างได้
 
ถอยกลับ ถัดไป