watkaeng |
28-08-2014 13:56 |
ชาวพุทธควรมีท่าทีอย่างไรกับข่าวพระสงฆ์ทางโซเชียล
ชาวพุทธควรมีท่าทีอย่างไรกับข่าวพระสงฆ์ทางโซเชียล1
ในโลกออนไลน์โชลเชียลนั้นเป็นไปอย่างรวดเร็วมาก แล้วก็เริ่มต้นอย่างง่ายด้วยสมาร์ทโฟน เพียงแค่เห็นสนุกถ่ายเอง โพสเองในหมู่เพื่อน(สำหรับพระบวชใหม่ที่ไม่เข้าใจว่ามีผลกระทบอย่างไร) หรือเพียงแค่เห็นแล้วมโนไปถ่ายปุ๊ป โพสปั๊บ แชร์กระจาย(สำหรับคนทั่วไปเห็นแปลกๆหรือหาเรื่องโพส) บางครั้งเป็นไปอย่างไร้สติ หรือมีปัญญากรอง หรือแค่มโนคิดไปเอง โดยเฉพาะเรื่องราวของพระสงฆ์นั้นเป็นอาหารอย่างดีสำหรับสื่อไทยเราที่ไม่ค่อยรู้วินัยพระสงฆ์ทั้งๆ ที่เป็นชาวพุทธ เป็นสื่อ ว่าอะไรคือโลกวัชชะ โลกติเตียน หรือเป็นปัณณัติวัชชะ ผิดทางวินัย แม้การผิดทางวินัยเองก็มีบทปัญญัติอยู่ในความหนัก ความเบาต่างกันไปเหมือนกฏหมาย แล้วเมื่อมโนไปเอง ก็ไม่เท่าไหร่ แต่ใส่ไฟวิจารณ์อย่างหนัก ขึ้นบนโชลเชียล คนเห็นก็ช่วยกันแชร์ แม้ว่า…อาจจะเข้าใจว่า ช่วยศาสนา แต่เปล่า เป็นการทำลายความศรัทธาทางอ้อม ทำลายพระพุทธศาสนาอีกทางหนึ่ง โดยไม่รู้ตัว หรือลึก ๆ อาจจะสะใจ เหมือนใช้คำว่า "แชร์ให้ถึงตัวเลย" ประมาณนั้น เหมือนดังที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า....ผู้ห้ามการให้ทานย่อมทำลายประโยชน์ทั้งสามฝ่ายคือ....
๑.ทำลายประโยชน์ของผู้ให้ทานที่จะได้บุญกลับไม่ได้
๒.ทำลายประโยชน์ของผู้รับทานคือปฏิคคาหก พระสงฆ์ก็ได้รับทานการถวายนั้นกลับไม่ได้ทานนั้น
และที่สำคัญคือ..
๓.ทำลายประโยชน์ของตนคือเมื่อทำลายประโยชน์ทั้งสองฝ่ายทั้งผู้ให้ที่จะได้บุญ ทั้งผู้รับที่จะได้ทาน เลยกลายเป็นวิบากกรรมแก่ตนดั่งเรือง "ชุมพุกาชีวก"นี่ถือว่า "ทำลายประโยชน์ของตนกลายเป็นบาปกรรม"ไป
เพราะคนที่ทราบข่าว เห็นข่าวก็ไม่อยากทำบุญ ไม่อยากไปวัด ไม่อยากไหว้พระ นั่นถือว่า
"ทำลายประโยชน์ทั้งสามฝ่ายเลย"
ที่หนักคือฝ่ายตน....หากรรมใส่ตัวอย่างง่ายดายเลย [attachment=10577]
|
|