แก่งกระจาน,ค่ายเยาวชน,จิตอาสา,ยุวธรรมทูต,อบรมธรรมะ,เว็บวัด,บูชาพระธาตุ,ไหว้พระบนเขา

การฉันข้าวในบาตร คือฉันแบบสำรวม ใช้ภาชนะเดียวคือ.....บาตร เป็นวิธีการที่ได้นำมาจากการอบรมสามเณรภาคฤดูร้อนวัดแก่งกระจาน โดยหลวงพ่อวัดแก่งกระจาน จากที่พระอาจารย์วาริน จกฺกรตโน นำมาจากการจัดบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อนที่วัดตำหรุ จ.สมุทรปราการ ในปีพ.ศ.๒๕๒๔ โดยจากการที่พระอาจารย์เฉลียว อคฺคธมฺโม วัดตำหรุ ได้นำวิธีการฉันในบาตรนี้มาจาก การบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน จากวัดพันอ้น จ.เชียงใหม่ โดยพระอาจารย์ดวงดี ฐิตปุญโญ เจ้าอาวาสวัดพันอ้น ซึ่งวัดพันอ้นได้จัดงานบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อนอย่างยิ่งใหญ่ โดยร่วมกับศูนย์พุทธธรรมหนองฮ่อ ของพระอาจารย์ไชยศ โดยมีพระอาจารย์ยันตระ อมโร เป็นประธาน ในปีพ.ศ.๒๕๒๗ พระอาจารย์วาริน จกฺกรตโนได้ไปเป็นพี่เลี้ยงช่วยอยู่ ๑ ปี ก็ได้นำวิธีการเหล่านั้นมาใช้ จากเชียงใหม่ สู่สมุทรปราการ สู่วัดแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี สมัยก่อนที่บรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อนที่วัดแก่งกระจานจัดโดยทีมงาน มจร.มาจัดนั่นนำโดยพระมหามนัส เป็นต้น ก็เป็นฉันเป็นวง ต้องมีการเตรียมอุปกรณ์หลายอย่าง และลำบากการล้าง ต้องมีคนช่วยล้างมากมาย เมื่อออกธุดงค์ต้องมีครัวติดตามมากมาย เช่น โยมม่วย สมใจ โยมสอิ้ง พุ่มพวง เป็นต้น เมื่อพระอาจารย์วาริน จกฺกรตโนได้มาจัดการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน ได้นำวิธีการที่เคยทำมาจัดที่วัดแก่งกระจาน ก็เปลี่ยนมาเป็นการฉันในบาตร ทั้งเช้าและเพล ต่อมาเมื่อได้จัดโครงการอบรมจิตเพื่อชีวิตใหม่ ในปี พ.ศ.๒๕๔๑ ที่วัดสองพี่น้อง เป็นปีแรก โดยมีพระอธิการสมัชชา มหาปญฺโญ เป็นเจ้าอาวาสา ก็ได้มีการฉันในบาตร แล้วก็ได้ยึดเป็นแนวปฏิบัติเรื่อยมาจนบัดนี้บอกเล่าเรื่องราวเส้นทางการฉันในบาตรสู่โครงการอบรมจิตเพื่อชีวิตใหม่ปีที่ ๒๐

ทุกย่างก้าว ทุกคำข้าวคือสติ คือการปฏิบัติธรรม