1. พระพุทธเจ้าตรัส ว่า การดูคนต้องดูนานๆ เพราะธรรมชาติเดิมแท้ของคนต้องใช้เวลาดูทั้งชีวิต ใครที่หลงคิดว่ารู้จักผู้อื่นมากที่สุดแสดงว่าตั้งอยู่ในความประมาท จะเจ็บเพราะคบคนที่ตนคบด้วยความไม่ระวัง
2. จำไว้ว่า คนที่ได้รับสรรเสริญอย่างเดียวไม่มีในโลก คนที่ได้รับแต่นินทาอย่างเดียวก็ไม่มีในโลก พระพุทธเจ้าตรัสว่า ไม่มีใครที่หนีรอดจากการถูกนินทาแม้แต่พระพุทธเจ้าเองซึ่งนับถือว่าเป็น บุคคลที่ดีที่สุดในโลก
3. ท่านพุทธทาสเขียน หนังสือเล่มหนึ่งหนักมากประมาณ 1000 หน้า ชื่อ ขุมทรัพย์จากพระโอษฐ์ ในยุคที่ยังไม่มีคอมพิวเตอร์ใช้ เปิดพระไตรปิฎกถึง 80 เล่ม ค้นทีละหน้า เอาเรื่องราวมาจัดเป็นหมวดหมู่ ใช้เวลาถึง 20 ปี กว่าจะจัดทำหนังสือที่ถือว่าเป็นพระพุทธประวัติของพระพุทธเจ้า คือ พระพุทธเจ้าเป็นผู้เล่าเรื่องเอง นี่คือความมุ่งมั่นของท่าน
4. อดีตของ ประธานาธิบดีของอเมริกาทุกคนเมื่อลงจากตำแหน่งแล้วจะกลับไปสร้างห้องสมุดที่ บ้านเกิด แต่ในบ้านเราของที่เขาถวายให้ขณะอยู่บนตำแหน่งยังเก็บเอากลับบ้านจนราชการ ต้องเอ่ยปากทวงคืน
5. มีคนแซวว่าคนไทย เข้าวัด 2 หน หนแรกหามเพื่อนเข้าไปคือไปงานศพ หนสองให้เพื่อนหามเข้าไป แต่บางคนมี 3 หน หนที่ 3 คือ เข้าไปเมาเหล้าในวัดโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว
6. เด็กคนหนึ่งเรียน หนังสือไม่รู้เรื่อง กลับบ้านบ่นให้แม่ฟัง แม่บอกเรียนไม่รู้เรื่องก็ช่างมันเถอะ กรรมของเธอทำมาแค่นี้เหมือนค้าขายแล้วถูกโกง แทนที่จะหาวิธีแก้กลับบอกตัวเองว่า ทำไงได้เราเกิดมามีกรรม หลายเหตุการณ์ในชีวิตเรารู้สาเหตุ แต่เรากลับโทษว่าเป็นเพราะกรรม นี่เป็นวิธีคิดแบบกรรมเก่า ทำให้เราหลายคนยอมจำนนต่อชีวิต เกิดอะไรขึ้นไม่อยากแก้ไข อยากจะก้มหน้ารับกรรมตลอด คนไทยชอบมากที่รับกรรม
7. ฆ่าสัตว์แต่ละ ประเภทบาปเท่ากันไหม... ทุกๆการฆ่าล้วนมีบาป ถ้าเป็นสัตว์ใหญ่ เราต้องใช้เรียวแรงและความพยายามมากก็บาปมาก ตรงกันข้าม การฆ่าสัตว์เล็ก ใช้กำลังใช้เจตนาน้อยก็บาปน้อย นอกจากนี้ให้ดูที่คุณค่าของสัตว์ด้วย ถ้าสัตว์ตัวนั้นมีประโยชน์มากก็บาปมาก เหมือนฆ่ามนุษย์กับฆ่าพระอรหันต์ บาปต่างกัน ฆ่าพระอรหันต์บาปมากกว่า เพราะท่านคือผู้ทรงไว้ด้วยคุณงามความดี
8. ผู้หญิงคนหนึ่งทำ ให้ผู้ชายคนหนึ่งทุกข์จนแทบล้มประดาตาย อยู่เป็นผู้เป็นคนไม่ได้ ต้องไปฆ่าตัวตาย แต่สำหรับผู้ชายอีกคนหนึ่ง ผู้หญิงคนนี้แทบไม่มีค่าความหมายอะไรเลย เพราะอะไร เพราะผู้ชายคนแรกประเมินค่าของผู้หญิงว่าเป็นแฟนของตน ขาดเธอแล้วฉันต้องตาย แต่สำหรับผู้ชายอีกคน เขาไม่ได้ประเมินค่าของผู้หญิง ผู้หญิงคนนี้ก็คือมนุษย์คนหนึ่งที่เดินผ่านหน้าไปเหมือนสายลม เมื่อไม่มีการประเมินค่า ผู้หญิงคนนี้ก็ทำร้ายเขาไม่ได้ เห็นหรือยัง ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ห้อมล้อมเราจะทำให้เราทุกข์หรือสุขขึ้นอยู่กับว่า เราไปประเมินค่าหรือให้ความสำคัญมากหรือน้อย ประเมินค่ามากก็ทุกข์มาก
9. โยมคนหนึ่งเอาลูก ไปกราบหลวงพ่อโสธร เธอบอกว่า หนูมาทุกปี ลูกคนนี้หนูได้มาเพราะหลวงพ่อช่วย หลวงพ่อจะช่วยให้คนมีลูกได้ยังไง บางทีโยมลืมนึกไปว่า พระในพระพุทธศาสนาช่วยให้มีลูกไม่ได้ บางทีเราก็อธิษฐานไปเรื่อยเปื่อย
10. วันหนึ่งมี จดหมายจากประชาชนไปถึงไอน์สไตน์ เรียนเชิญไอน์สไตน์ขึ้นเป็นประธานาธิบดีของเยอรมันเพื่อเป็นเกียรติแก่ ประเทศ ไอน์สไตน์อ่านจบแล้วตอบกลับไปว่า ผมขอขอบพระคุณอย่างสุดซึ้งที่ไว้วางใจ แต่ผมอยากเรียนว่า ผมจะไม่ทำอะไรที่ผมไม่มีความถนัด เห็นหรือยัง ไอน์สไตน์รู้ว่าเขาเกิดมาเพื่อเป็นนักฟิสิกส์ ไม่ใช่เกิดมาเพื่อเป็นนักการเมือง คนเราควรรู้จักตนเองว่าเกิดมาเพื่ออะไร และรู้ว่าเราควรทำอะไร
11. โยมบางคนทำงาน มากเกินไป ได้งานแต่เสียสุขภาพ เรียกว่า งานสำเร็จแต่คนเสร็จ บางคนทำงานหามรุ่งหามค่ำ ออกจากบ้านตีห้า มาถึงออฟฟิศทำงานเลยทั้งที่ยังไม่ถึงเวลางาน อยากทำก่อน คนอื่นเลิกงาน 2 ทุ่ม แต่ตนเองเลิกงาน 4 ทุ่ม กลับไปบ้านคุยกับเมียและลูกผ่านกระดาษโน้ตบนตู้เย็น สุดท้ายคุณภาพงานได้เต็มร้อยแต่คุณภาพชีวิตไม่ได้เลย ประสบความสำเร็จในงานแต่ล้มเหลวในฐานะสามีและพ่อ
12. เรามักคิดว่าเรา ประสบความสำเร็จในฐานะนักธุรกิจ ซุปเปอร์สตาร์ นักการเมือง แต่เราลืมถามว่าเราประสบความสำเร็จในฐานะเป็นมนุษย์แล้วหรือยัง เรามีจริยธรรมที่น่าภูมิใจหรือเปล่า เราละอายชั่วกลัวบาปหรือไม่
13. ถ้าคุณสอนลูกให้ เห็นแก่ตัว เท่ากับคุณแช่งลูกให้เป็นคนที่ใครๆก็ไม่รัก ถ้าคุณสอนลูกให้รู้จักแบ่งปัน เท่ากับคุณรังสรรค์เสน่ห์ไว้ในตัวลูก ลูกจะเป็นคนที่มีเสน่ห์หรือเป็นเสนียด อยู่ที่มันสมองและสองมือของแม่
14. มนุษย์มักคิดว่า คนเราอยู่คนเดียวไม่ได้ แต่รู้ไหมว่าพระพุทธเจ้าตรัสว่า นอกจากมนุษย์จะมีศักยภาพในการทำงานแล้ว มนุษย์ยังมีศักยภาพในการอยู่คนเดียวอย่างมีความสุขอีกด้วย เวลาอยู่คนเดียวทางโลกเรียกว่า อยู่วิเวก บางทีเต็มไปด้วยความวังเวงและโหวงเหวง แต่ในทางพระท่านเรียกว่า วิเวกสุข คือ สุขที่เกิดจากการอยู่คนเดียว เหมือนพระสงฆ์ ครูบาอาจารย์ ที่อยู่อย่างมีความสุข บางครั้งการที่คุณอยู่คนเดียวแต่มีธรรมะเป็นคู่ชีวิต คือช่วงเวลาที่ประเสริฐสุดก็ได้ บางครั้งการอยู่สองคนแต่ขาดธรรมะ นั่นคือการเอาก้อนทุกข์สองก้อนมาอยู่ด้วยกัน เป็นก้อมทุกข์ที่มาในรูปสามีหรือภรรยา
15. เดี๋ยวนี้คนไทย จำนวนมากไปถวายพระพุทธรูปที่ต่างประเทศ เอานามสกุลตัวเองไปเป็นชื่อพระพุทธรูปจนกลายเป็นค่านิยมไปแล้ว ทั้งๆที่พระพุทธเจ้าสอนเรื่องอนัตตา อย่างนี้เรียกว่าเอากิเลสอ่อนไปแลกกิเลสแก่
16. ผู้รู้กล่าวว่า ไม่ต้องเสียใจที่เมืองไทยไม่มีโรงงานผลิตโบอิ้ง ไม่มีโรงงานผลิตรถยนต์ที่หรูสุดในโลก แต่คุณรู้ไหม มีสิ่งหนึ่งที่โรงงานทั่วโลกผลิตไม่ได้คือ ผลิตคนอย่างท่านพุทธทาส ท่านเป็นตัวอย่างของความมุ่งมั่น ภาษาอังกฤษเรียนเอง ภาษาจีนเรียนเอง และมีค่าพอที่เป็นปัญญาชนของโลก เคล็ดลับของท่านคืออะไร คำตอบเดียวคือ ความมุ่งมั่น
17. คนแก่หลายคนพอ คู่รักตายไป ส่วนตัวเองไม่ป่วยไม่ไข้ กลับตายตามคู่รักไปในเวลาไล่เลี่ยกัน เพราะอะไร เพราะผูกจิตผูกใจไว้กับคู่ครองของตน คนแก่เหล่านั้นถ้ามาฝึกสติวิปัสสนากรรมฐานจีอายุยืนอีกหลายปี
18. พ่อมีตู้เสื้อ ผ้าของพ่อ แม่มีตู้เสื้อผ้าของแม่ ลูกก็มีของลูก เห็นไหมว่ามนุษย์ทุกคนในโลกนี้ต่างมีวิถีชีวิตของตน ถ้าเราคาดหวังให้คนอื่นเป็นไปตามที่เราต้องการ เราจะเป็นทุกข์และทุกข์หนักกว่าคนอื่นทั่วไป
19. พระพุทธเจ้าใช้ เวลา 6 ปี บำเพ็ญเพียรจนบรรลุธรรม คนทั้งโลกเชื่อว่าเรื่องแรกที่ท่านเทศน์ต้องเป็นเรื่องที่ดีที่สุด เรื่องนั้นคือ มนุษย์ต้องมีสัมมาทิฐิ ต้องมองโลกให้เป็น คือมีค่านิยมต่อโลกและชีวิตที่ถูกต้อง
20. ถ้าเรามีค่านิยม ต่อโลกและชีวิตที่ถูกต้อง ชีวิตที่เหลือก็ถูกหมด เหมือนเราจับทิศถูก เราก็ไปถึงที่หมายได้ถูกต้อง พุทธศาสนาบอกว่า โลกคือก้อนทุกข์ก้อนหนึ่ง ถ้าเรามองเป็น เราก็จะเป็นสุข
21. คุณปู่คนหนึ่ง ตื่นเช้าขึ้นมาจะไปใส่บาตร เรียกลูกชายให้ไปส่ง ลูกชายเพิ่งเสร็จงานกลับเข้าบ้านเมื่อตีสามเลยของีบต่ออีกนิด ปู่บอก “ถ้าไม่ไปกูยิงมึงนะ” ลูกชายก็โมโห “คนเป็นพ่อลูกเขาไม่พูดกันอย่างนี้หรอก” ปู่โกรธลูกชายมาก ไม่ไปส่งดันมาขึ้นเสียง ลูกชายกลัวมีเรื่องเลยรีบไปหาลุงเพื่อนบ้านที่เป็นพลโท “คุณลุงครับ ช่วยมาห้ามพ่อผมหน่อย” ลุงข้างบ้านจึงเข้าไปเตือน “ลูกคุณมันง่วง สงสารมันหน่อย ให้มันได้พักบ้าง” คุณปู่ยิ่งโมโห “แกมายุ่งเรื่องอะไรของชาวบ้าน” ปู่วัย 80 คว้าลูกปืนจุด 38 ยิงที่ลูกชาย ลูกปืนทะลุไหปลาร้าลูกเข้าที่หน้าผากพลเรือโทเพื่อนบ้านขาดใจตายใน 2 ชั่วโมงต่อมา คุณปู่ตกตะลึง เดินกลับห้องยิงตัวตาย สรุปตาย 2 สาหัส 1 เหตุการณ์น่าสนใจเกิดจากความโกรธเข้าครอบงำ คุณปู่คนนี้เป็นอดีตพลเอก เคยคุมทหารทั้งกอง แต่คุมใจตัวเองไม่อยู่ สุดท้ายตกเป็นทาสความโกรธ และต้องจบชีวิตด้วยเหตุอันไม่สมควร
22. ผู้ใหญ่คนหนึ่ง เล่าให้อาตมาฟังว่า มีนักเรียนทุนไปเรียนปริญญาตรี โท และ เอก จบด็อกเตอร์ กลับมา โทรบอกให้กิ๊กมารับ แต่ไม่บอกพ่อแม่ตัวเองนะ แต่กิ๊กดันโทรบอกพ่อแม่ซึ่งเป็นคนบ้านนอกเชยๆให้มารับด้วย ด็อกเตอร์หมาดๆ หอมกลิ่นเมืองนอก เห็นกิ๊กแล้วดีใจ โผเจข้าไปกอดอย่างมีความสุข แต่พอไปเห็นพ่อแม่ตนเองอยู่ข้างหลังกลับทำหน้าบอกบุญไม่รับ บอกว่า “มาทำไม ใครให้สะเออะมารับ” เห็นไหม มีความรู้มหาศาลแต่ความประพฤติไม่ดี นี่คือเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในสังคมไทย เรียนจบด็อกเตอร์มาจากเมืองนอกต้องใช้ทุนคืนรัฐบาล แต่ไม่เคยนึกถึงทุนพ่อแม่ที่ให้ชีวิตคุณมา มีลูกจำนวนมากที่ไม่กล้าพาพ่อแม่ออกงาน
23. โยมคนหนึ่งไปถาม ปู่หลวงนนท์ “ถ้าเกิดมีคนตายเราควรไว้ทุกข์กี่วัน” หลวงปู่บอกว่า “ไปไว้ทำไมเจ้าความทุกข์ ทิ้งซะสิ มันน่าเก็บไว้หรือไง” เห็นไหม คนไทยเรานี้ชอบไว้ทุกข์ ทุกข์แล้วยังกอดไว้ ไม่รู้จักปล่อยวาง
รูปภาพ:พระ ว.วชิรเมธี
รูปภาพ: vo-vachiramethee.jpg
