4006เข้าชม
0ตอบกลับ

ธรรมบรรยายเรื่องธรรมคุ้มครองโลกในรายการธรรมะรับอรุณ [คัดลอกลิงค์]

ถอยกลับ ถัดไป ดูที่ระบุไว้

ออฟไลน์ watkaeng

ระดับ : ผู้ดูแลระบบ

UID: ผู้ใช้ลำดับที่ 6

เพศ : ชาย

โพสต์ : 2068

สำคัญ : 0

เงิน : 2020 (บาท)

ความดี : 1047 (แต้ม)

เครดิต : 2061 (แต้ม) [เติม]

จิตพิสัย: 997 (แต้ม)

EXP:

41.36%

ติดตาม ข้อความ

เหรียญ

ดูเหรียญทั้งหมด

เฉพาะโพสต์แรก ลำดับปกติ เครื่องมือ ลิงก์โพสนี้ โพสต์เมื่อ: 2013-08-07 17:25:25: 2013-08-07 จำนวนผู้เข้าชม: 4006 ท่าน

คนก็คือสัตว์ สัตว์ก็คือคน เพราะคำว่า สัตว์แปลว่า ข้องอยู่ ๆ อยู่เพราะมีความโลภความโกรธความหลง จึงไม่หลุดพ้นข้องอยู่ในภพสาม แต่คนเราก็บัญญัตศัพย์เรียกตนเองว่า เป็นมนุษย์ แปลว่า ผู้มีใจสูง เพราะมีศีล แล้วเรียกสัตว์อื่น ๆว่า เดรัจฉาน แปลว่า ผู้มีธรรมชาติไปตามขวาง เพราะทำตามสัญชาตญาน (ความรู้เดิมๆ ที่ติดตัวมา) กิน นอน กลัวภัย สืบพันธ์ แต่มนุษย์มีใจสูงเพราะศีล มีภาวิตะญาน ความรู้ที่ทำให้เกิดและพัฒนาได้ แต่มนุษย์ก็ยังคงมีสัญชาตญาน มีกิเลสความโลภ ความโกรธ ความหลงอยู่ เส้นแบ่งเขตระหว่างมนุษย์และสัตว์ ก็อยู่ที่ภาวิตญานคือศีลธรรมนั้นเอง ศีลธรรมที่เป็นเส้นแบ่งระหว่างมนุษย์และสัตว์ก็คือ หิริ ความอายต่อบาป โอตัปปะ ความกลัวต่อบาป หากว่า เส้นแบ่งเขตนี้หายไปไม่มีความอายต่อบาปความไม่มีความกลัวต่อความผิด คน มนุษย์ก็ไม่ต่างอะไรกับสัตว์ ก็อาจจะเป็นเดรัจฉานขวางทางแห่งความดีของตนเองและสังคมอีกด้วย เมื่อมนุษย์ได้โชคที่เกิดมาใจสูงที่พัฒนาได้ก็ควรพัฒนาต่อไปให้พ้นจากแดนของเดรัจฉาน ใช้ภาวิตญานศีลธรรมข่มสัญชาติญานความโลภความโกรธความหลง อย่าทำตามกิเลส ทำตามความโง่มากเกินไป
ใจความจากรายการ "ธรรมรับอรุณ" ในเรื่อง "ธรรมเป็นโลกบาลคุ้มครองโลก"ทางคลื่นแก่งกระจานเรดิโอ เวลา ๐๕.๓๐ -๐๖.๑๐ น. ทุกวันจันทร์-ศุกร์
图片:IMG_0001A.jpg