|
ดอกบัว ๔ มาเล่าให้ฟัง........................................................................................ผู้มีปัญญามาก บารมีเต็มเปี่ยม มีความเป็นสัมมาทิฏฐิบริบูรณ์ ได้ฟังเพียงหัวข้อธรรมก็บรรลุธรรมทันที เหมือนดอกบัวพ้นน้ำ เพียงต้องแสงอาทิตย์อุทัยก็บาน อุคคติตัญญู.........................................................................................ผู้มีปัญญาปานกลาง มีความเป็นสัมมาทิฏฐิบริบูรณ์ ได้ฟังการแจกแจง อธิบายหัวข้อธรรม ก็บรรลุทันที เหมือนดอกบัวปริ่มน้ำ เตรียมบานต้องแสงอุทัยในวันต่อไป คือ วิปจิตัญญู ......................................................................................... ผู้ปัญญาน้อย มีความเป็นสัมมาทิฎฐิ ได้ฟังธรรมแล้ว ต้องไตร่ถาม นำมาปฏิบัติ คบหากัลยาณมิตร จึงบรรลุธรรม เหมือนดอกบัวกลางน้ำ จะค่อยโผล่พ้นน้ำในวันต่อไป คือ เนยยะ .......................................................................................... ผู้ไม่มีปัญญา มีความเป็นมิจฉาทิฏฐิ ต้องเสียเวลาอบรม แนะนำ มากมาย แม้ไม่บรรลุธรรมในชาตินี้ แต่ก็ได้สั่งสมอุปนิสัยไป เติมเต็มในชาติต่อไป และก็เสี่ยงต่อภัยร้ายจากวัฏฏสงสาร เพราะยังอินทรีอ่อนมาก เหมือนดอกบัวที่อยู่ใต้โคลนตม เพราะความอ่อนแอนี่แหละจึงเสี่ยงต่อการเป็นอาหารเต่า และปลา เราท่านทั้งหลายก็ก่ำกึ่ง ๆ อยู่กับประเภทนี้แหละ คือ ปทปรมะ ..................................................................................................... .......ส่วนหนึ่งจากการบรรยายธรรมภาคเช้าแก่ผู้บวชเนกขัมมบารมีที่วัดสวนวาง
|